กรมการทหารสื่อสาร เปิดรับสมัครสอบข้าราชการ 26 ก.พ. -2 มี.ค. 2561 รวม 50 อัตรา

“กรมการทหารสื่อสาร เปิดรับสมัครสอบข้าราชการ 26 ก.พ. -2 มี.ค. 2561 รวม 50 อัตรา

กรมการทหารสื่อสาร เปิดรับสมัครสอบ

ระเบียบสอบคัดเลือกทหารกองหนุน เพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวนเหล่าทหารสื่อสาร อัตรา สิบเอก ประจําปีงบประมาณ ๒๕๖๑

กรมการทหารสื่อสาร มีความประสงค์รับสมัครทหารกองหนุนที่เคยรับราชการเป็นทหาร กองประจําการ ในเหล่าทหารสื่อสาร แต่งกายทหารบก ซึ่งมีเวลารับราชการเป็นทหาร กองประจําการไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือกําลังรับราชการเป็นทหารกองประจําการ ในเหล่าทหารสื่อสารแต่งกายทหารบกซึ่งจะครบกําหนดปลดจากกองประจําการในวันที่ ๓๐ เม.ย.๖๑ และมีเวลารับราชการเป็นทหารกองประจําการ ถึงวันที่ปลดจากกองประจําการ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี โดยมีอายุไม่เกิน ๒๕ ปี นับจาก พ.ศ. เกิด และต้องสําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าขึ้นไป เพื่อเข้ารับการคัดเลือกให้รับราชการเป็นนายทหารประทวน เหล่าทหารสื่อสาร อัตรา สิบเอก จํานวน ๕๐ ตําแหน่ง เพื่อบรรจุเข้ารับราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ และเข้ารับการศึกษาหลักสูตรระยะสั้นของโรงเรียนทหารสื่อสาร เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๓ เดือน เมื่อสําเร็จการศึกษา จะปรับย้ายไปรับราชการในหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพบกต่อไป

ข้อ ๒ คุณสมบัติของผู้สมัครสอบคัดเลือก

๒.๑ เป็นทหารกองหนุนที่เคยรับราชการเป็นทหารกองประจําการ ในเหล่าทหารสื่อสาร แต่งกายทหารบก ซึ่งมีเวลารับราชการเป็นทหารกองประจําการไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือกําลังรับราชการเป็นทหารกองประจําการ ในเหล่าทหารสื่อสาร แต่งกายทหารบก ซึ่งจะครบกําหนดปลดจากกองประจําการ ในห้วงวันที่ ๓๐ เมษายน ถึง ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ และมีเวลารับราชการเป็นทหารกองประจําการ ถึงวันที่ปลดจากกองประจําการ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี
๒.๒ มีอายุไม่เกิน ๒๕ ปี โดยนับอายุจากปี พ.ศ. เกิด (การคิดอายุ พ.ศ. ปัจจุบัน ลบด้วย พ.ศ.เกิด) โดยรับสมัครผู้ที่เกิดตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๖
๒.๓ งดรับสมัครทหารกองหนุนที่สําเร็จหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ ๓ (รด. ปี.๓) ขึ้นไป
๒.๔ งดรับสมัครทหารกองประจําการที่จะครบกําหนดปลดเป็นทหารกองหนุน ในห้วงวันที่
๓๐ เมษายน ถึง ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ และได้ร้องขอรับราชการเป็นทหารกองประจําการต่อ
๒.๕ สําเร็จการศึกษาไม่ต่ํากว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า จากสถานศึกษาที่สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.), สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) หรือสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ให้การรับรอง และไม่รับสมัครผู้ที่รอหลักฐานผลการศึกษาหรือคุณวุฒิ หรือผู้ที่ไม่มีหลักฐานผลการศึกษาหรือคุณวุฒิ
๒.๖ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคที่ขัดต่อการรับราชการ มีอวัยวะ รูปร่างลักษณะท่าทางและขนาดร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหาร และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม
๒.๗ เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน ในการขอแต่งตั้งยศเป็นนายทหารประทวน ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแต่งตั้งยศทหาร พ.ศ.๒๕๐๗ และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม
๒.๘ มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร หรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดแล้ว มารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดก็ได้
๒.๙ เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๒.๑๐ ไม่เป็นผู้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือเป็นบุคคลล้มละลายตามคําพิพากษา
๒.๑๑ ไม่อยู่ในสมณเพศ
๒.๑๒ ไม่เป็นผู้ที่เคยต้องโทษจําคุก โดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เพราะกระทําความผิดทางอาญายกเว้นความผิดลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทําโดยประมาท หรืออยู่ในระหว่างถูกดําเนินคดี
๒.๑๓ ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติด หรือสารเคมีเสพติดให้โทษ หรือมีประวัติคดีอาญา ข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด
๒.๑๔ ไม่เคยเป็นผู้ถูกปลดเพราะความผิด หรือถูกไล่ออกจากราชการ
๒.๑๕ ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีงาม
๒.๑๖ ไม่เคยทุจริตในการสมัครสอบหรือการสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการทหารมาก่อน
๒.๑๗ ไม่มีรอยสักให้เห็นอยางชัดเจนนอกร่มผ้าเมื่อแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารหรือชุดกีฬาของหน่วย(เสื้อคอวี, กางเกงกีฬาขาสั้นเหนือเข่า) หรือมีรอยสักที่มีลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทางราชการทหาร
๒.๑๘ ไม่มีตําหนิหรือแผลเป็นที่ดูน่าเกลียดที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่อแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหาร
๒.๑๙ ไม่มีร่องรอยการเจาะหู

ข้อ ๔ หลักฐานประกอบการรับสมัคร

ให้ยื่นเอกสารประกอบการสมัครสอบฉบับจริง พร้อมถ่ายสําเนาเอกสารโดยใช้กระดาษ ขนาด เอ ๔ อย่างละ ๖ ฉบับ โดยผู้สมัครสอบเขียนคํารับรองตนเองว่า สําเนาถูกต้อง แล้วลงชื่อกํากับไว้เมื่อกรรมการรับสมัครตรวจสอบเอกสารแล้ว จะส่งฉบับจริงให้กลับคืนและเก็บไว้เป็นหลักฐานเฉพาะฉบับสําเนาเท่านั้น โดยยื่นหลักฐานด้วยตนเอง ดังนี้
๔.๑ รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกและแว่นตา ขนาด ๒ นิ้ว จํานวน ๖ รูป และ ขนาด ๑ นิ้ว จํานวน ๖ รูป (ถ่ายไม่เกิน ๓ เดือน)
๔.๒ หลักฐานการศึกษา (ใบสุทธิ ระเบียนแสดงผลการศึกษา หรือใบประกาศนียบัตร ซึ่งจะต้องสําเร็จการศึกษาไม่เกินวันที่ปิดรับสมัครเท่านั้น)
๔.๓ ทะเบียนบ้านของผู้สมัคร บิดา และมารดา กรณีนามสกุลบิดาและมารดาไม่ตรงกันต้องแนบสูติบัตรของผู้สมัครเพื่อยืนยัน หรือให้อําเภอรับรองว่า เป็นบิดาและมารดาของผู้สมัครจริง
๔.๔ บัตรประจําตัวประชาชนของผู้สมัคร
๔.๕ หนังสือสําคัญ สด.๓ หรือ สด.๘ และหนังสือรับรองความประพฤติจากหน่วยต้นสังกัดที่เคยรับราชการ (กรณียังไม่มี สด.๘ ให้หน่วยต้นสังกัดรับรองว่ารับราชการในกองประจําการ ในปีใดผลัดใด ตั้งแต่เมื่อใด และปลดประจําการเมื่อใด มาแสดง และต้องมี สด.๓ มาแสดงด้วย)
๔.๖ ใบสําคัญความเห็นของแพทย์ทหาร (แบบ ทบ.๔๖๖-๖๒๐) และออกโดยโรงพยาบาลทหารเท่านั้น และมีผลการตรวจไม่เกิน ๖ เดือน (หลังจากประกาศผลการสอบคัดเลือกทุกขั้นตอนแล้ว ให้ผู้ที่จะดําเนินการบรรจุดําเนินการตรวจโรคที่ โรงพยาบาลทหาร และให้ใบสําคัญความเห็นของแพทย์ ระบุว่า“ไม่เป็นโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร ”)
๔.๗ หลักฐานอื่น เช่น การเปลี่ยนชื่อ – สกุล
๔.๘ หลักฐานตามข้อ ๔.๒ – ๔.๗ ถ่ายสําเนาเอกสารโดยใช้กระดาษ ขนาด เอ ๔ อย่างละ ๖ ฉบับ และนําฉบับจริงมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่รับสมัครด้วย ทั้งนี้ สําเนาเอกสารต่างๆ จะต้องชัดเจน ไม่เลือนราง หรือมีร่องรอยขูดลบขีดฆ่า
๔.๙ รายละเอียดเพิ่มเติมตรวจสอบทางเว็บไซต์กรมการทหารสื่อสาร http://signal.rta.mi.th หรือ FACEBOOK : กรมการทหารสื่อสาร หรือโทรศัพท์สอบถามที่ กองกําลังพล กรมการทหารสื่อสาร หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๒๙๗-๕๔๙๐ และ ๐-๒๒๙๗-๖๑๐๒ ในวันและเวลาราชการ

ข้อ ๖ กําหนดการรับสมัครและการสมัครสอบ

๖.๑ กําหนดการรับสมัคร
๖.๑.๑ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ถึง ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๑ เวลา ๐๙๐๐ – ๑๖๐๐ เฉพาะวันทําการ
๖.๑.๒ สถานที่รับสมัคร ชั้นล่าง อาคารโรงนอน หมวด ๔ กองร้อยบริการ กองบริการ
กรมการทหารสื่อสาร เลขที่ ๑๔๙ ถนนพระราม ๕ เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ และไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครใด ๆ ทั้งสิ้น
๖.๒ การสมัครสอบ
๖.๒.๑ เขียนใบสมัครสอบให้ถูกต้องและชัดเจน ตามแบบตัวอย่างที่หน่วยรับสมัครติดไว้และหลักฐานที่นํามาใช้สมัครสอบต้องเป็นหลักฐานที่เป็นจริง ถ้าหากตรวจพบว่าหลักฐานเป็นเท็จจะต้องถูกดําเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด
๖.๒.๒ ให้ตรวจสอบความถูกต้องของใบสมัครสอบกับเจ้าหน้าที่รับสมัครก่อนยื่นหลักฐานใบสมัครสอบ
๖.๒.๓ ยื่นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่รับสมัคร เพื่อออกบัตรประจําตัวสอบ
๖.๒.๔ ตรวจสอบความถูกต้องของบัตรประจําตัวสอบ พร้อมกับรับเอกสารประกอบการสมัครสอบฉบับจริงคืน (กรรมการรับสมัครสอบจะเก็บเฉพาะฉบับสําเนาไว้เป็นหลักฐาน)
๖.๒.๕ เมื่อได้รับบัตรประจําตัวสอบแล้ว ต้องจดจําหมายเลขประจําตัวสอบ และนําบัตรประจําตัวสอบติดตัวตลอดในห้วงการสอบ ถ้าไม่มีบัตรประจําตัวสอบไปแสดงต่อคณะกรรมการ “จะไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ”
๖.๒.๖ ตรวจสอบเอกสารฉบับจริงอีกครั้ง หากยังไม่ได้รับคืนให้ติดตามสอบถามกับ
กรรมการรับสมัครสอบในวันนั้น หากมีเอกสารสําคัญสูญหายไป คณะกรรมการจะไม่รับผิดชอบ
๖.๒.๗ กรณีทําบัตรประจําตัวสอบหาย ให้แจ้งความที่สถานีตํารวจ เพื่อขอสําเนาบันทึกประจําวันเรื่องเอกสารสูญหาย มาใช้ประกอบกับสําเนาบัตรประจําตัวประชาชน สําหรับยื่นคําร้องต่อคณะกรรมการเพื่อออกบัตรแทน โดยยื่นคําร้องที่ กองกําลังพล กรมการทหารสื่อสาร

ข้อ ๗ การสอบคัดเลือกภาควิชาการ

๗.๑ สถานที่สอบ โรงเรียนทหารสื่อสาร กรมการทหารสื่อสาร ถนนพระราม ๕ เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร
๗.๒ วัน เวลา ที่สอบ วันอังคารที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๑
๗.๒.๑ รายงานตัวและแสดงหลักฐานของผู้สมัคร เวลา ๐๗๐๐ – ๐๘๐๐
๗.๒.๒ สอบภาควิชาการ เวลา ๐๘๓๐ – ๑๖๐๐
๗.๓ สอบภาควิชาการ
๗.๓.๑ วิชาทั่วไป (พื้นฐานระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย)
๗.๓.๑.๑ วิชาคณิตศาสตร์
๗.๓.๑.๒ วิชาภาษาอังกฤษ
๗.๓.๑.๓ วิชาภาษาไทย
๗.๓.๑.๔ วิชาความรู้ทั่วไป
๗.๓.๒ วิชาทหารสื่อสาร
– ขอบเขตการสอบความรู้การฝึกทหารใหม่และการฝึกตามหน้าที่

ตำแหน่ง: รวม50อัตรา,นายทหารประทวน
ระดับการศึกษา: ม.ปลาย
อัตราเงินเดือน:
อัตราว่าง: 50
ปฏิบัติงานที่: กรุงเทพมหานคร ()
การสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของ ก.พ.:
*
*ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.
*
*
ehenbook.com

วิธีการสมัครงานข้าราชการ กรมการทหารสื่อสาร :ตนเอง  

ดาวน์โหลดไฟล์ กรมการทหารสื่อสาร คลิกที่ลิงค์ด้านล่าง
ประกาศ 1 |

คลิกที่นี่เพื่อค้นหาคู่มือ/หนังสือเตรียมสอบสำหรับ : กรมการทหารสื่อสาร

Scroll to Top